สรุปประเด็น กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้..สู่การปฏิบัติ ครั้งที่ 8
“Law คนสวนดุสิต (ตอบ)”
วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ณ ห้อง Activity Space อาคาร Student Activity Space ชั้น 2
กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้..สู่การปฏิบัติ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและเปิดโอกาสให้บุคลากรได้พูดคุย เรียนรู้ สร้างความเข้าใจ และทำความรู้จัก ความเป็นสวนดุสิตให้มากขึ้น เพื่อสนับสนุนแนวทางการพัฒนาบุคลากรตามทิศทางของมหาวิทยาลัย “จิ๋วแต่แจ๋ว” กิจกรรม “Law คนสวนดุสิต (ตอบ)” วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ณ ห้อง Activity Space อาคาร Student Activity Space ชั้น 2 ผู้เข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วย บุคลากรสายวิชาการ สายสนับสนุน และสายบริการ
ได้เรียนเชิญ ผศ.สรศักดิ์ มั่นศิลป์ รองคณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง อาจารย์วัลลภ ห่างไธสง อาจารย์ประจำโรงเรียนกฎหมายและการเมือง นายเอกรัฐ เผ่าพงศ์ประเสริฐ และนางสาวอทิตยา คงมี นิติกร กองกฎหมาย มาร่วมเสวนาให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน เช่น กฎหมายครอบครัว การทำนิติกรรม กฎหมายที่เกี่ยวกับการต่อสัญญาจ้าง การทำผลงานระดับชำนาญการ กฎระเบียบปฏิบัติงาน และข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เช่น การผิดระเบียบวินัย เอกสารหลักฐานในการสมัครงาน เป็นต้น
เรื่องกระบวนการต่อสัญญาของบุคลากรสายวิชาการ สิ่งที่ต้องปฏิบัติ อันดับแรก คือ เกณฑ์ มคอ. และระเบียบข้อบังคับมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง หากมีข้อปฏิบัติอื่นใดที่จำเป็นและไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด ผู้สอนควรที่จะดำเนินการจัดทำบันทึกรายงานเพื่อให้มหาวิทยาลัยรับทราบ เพื่อพิจารณาตามเงื่อนไขกระบวนการของมหาวิทยาลัยต่อไป
ประเด็นการทำผลงานระดับชำนาญการ มีความสำคัญสำหรับบุคลากรสายสนับสนุน ควรดำเนินการให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด และจะเป็นประโยชน์ต่อบุคลากร เนื่องจากมหาวิทยาลัยพิจารณาตามเกณฑ์ซึ่งประกอบด้วย 1) ผลงานเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ 2) ผลงานเชิงพัฒนา 3) ผลการทดสอบความรู้ตามที่กำหนด (ทดสอบและสัมภาษณ์) เมื่อบุคลากรสายสนับสนุนสอบผ่านทั้งสามส่วน การที่มีผลงาน ที่เป็นรูปธรรม จะเป็นประโยชน์และจะช่วยสร้างความมั่นใจในการพิจารณาของมหาวิทยาลัย
ผศ.ดร.พิทักษ์ จันทร์เจริญ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการทำผลงานของบุคลากรสายสนับสนุน ปัจจุบันการเลื่อนระดับตำแหน่งจากปฏิบัติการไปสู่ชำนาญการ มีจำนวนน้อยมาก และในอนาคตมหาวิทยาลัยกำลังศึกษาข้อกฎหมายในการพิจารณาแนวทาง และค่าตอบแทนจากการเลื่อนระดับตำแหน่งชำนาญการ เป็นชำนาญการพิเศษ
ในส่วนของบุคลากรสายบริการ หรือผู้ปฏิบัติงานที่เป็นลูกจ้างมหาวิทยาลัย มีการปฏิบัติงานและมีการประเมินผลการปฏิบัติงานตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย หากมีกรณีการกระทำผิดระเบียบวินัยใดๆ ทางมหาวิทยาลัยจะพิจารณาตามข้อบังคับและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งตัวบุคลากรเองและผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยมหาวิทยาลัยให้ความสำคัญและคำนึงถึงความสัมพันธ์ที่ดีกับบุคลากรมาโดยตลอด
วิทยากรได้ให้ข้อเสนอแนะว่า การปฏิบัติงานทั้งบุคลากรสายวิชาการ สายสนับสนุน และสายบริการ ควรให้ความสำคัญกับการศึกษา เรียนรู้ และทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบปฏิบัติของมหาวิทยาลัย เพื่อประโยชน์ของตัวบุคลากร และเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดจากการกระทำที่ละเมิดหรือผิดต่อกฎหมายและข้อบังคับต่าง ๆ ขณะเดียวกันสถานการณ์ของมหาวิทยาลัย ทำให้หลายคนรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับการต่อสัญญาจ้าง ข้อเสนอแนะสำหรับบุคลากร คือ ควรติดตามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ พัฒนาความรู้ และศึกษาข้อกฎหมาย ระเบียบ และพัฒนาตนเองและงานอย่างต่อเนื่อง
หากบุคลากรต้องการความช่วยเหลือ คำปรึกษา หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายระเบียบต่าง ๆ สามารถติดต่อได้ที่ กองกฎหมาย หรือ อาจารย์ของโรงเรียนกฎหมายและการเมืองได้ทุกท่าน
การเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมจำนวน 47 คน มีผู้ที่แสดงความคิดเห็นในแบบสอบถาม จำนวน 32 คน สรุปผลสำรวจได้ดังนี้
- “Law” ของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่คนสวนดุสิต อ่านหรือรับรู้ (ตอบหลายคำตอบ)
อันดับ 1 | พ.ร.บ. มหาวิทยาลัยสวนดุสิต | 46.88% |
อันดับ 2 | การต่อสัญญาจ้าง ระเบียบหรือกฎหมายการบริหารงานบุคคล
(รวมทั้งการทำผลงาน การพัฒนาบุคลากร) |
37.50% |
อันดับ 3 | ระเบียบ กฎเกณฑ์ ทิศทางมหาวิทยาลัย | 25.00% |
อันดับ 4 | การบริหารทรัพย์สิน และระเบียบด้านการเงินการบัญชี (กองทุนสำรองฯ กองทุนสะสมฯ เป็นต้น) | 12.50% |
อันดับ 5 | กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) | 9.38% |
- 2. อีก 3 ปีข้างหน้า คนสวนดุสิต คิดว่า มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เป็นอย่างไร
อันดับ 1 | มีหน่วยงานเชิงธุรกิจบริการวิชาการ/มีการให้บริการที่หลากหลายมากขึ้น | 33.34% |
อันดับ 2 | มหาวิทยาลัยมีความเข้มแข็ง พัฒนาในทุก ๆ ด้าน | 27.27% |
อันดับ 3 | มีนักศึกษาเข้ามาศึกษาจำนวนมาก | 21.21% |
อันดับ 4 | มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้น มีการสอนออนไลน์ เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี | 12.12% |
อื่นๆ | มีการทำงานร่วมกันมากขึ้น รถไม่ติด เป็นมหาวิทยาลัยที่ตอบสนองสังคมมากขึ้น | 6.06% |
- 3. แนวทางที่คนสวนดุสิต สามารถช่วยพัฒนามหาวิทยาลัยสวนดุสิต
อันดับ 1 | เพิ่มทักษะ พัฒนางานในหน้าที่/ความรู้ของตนเอง | 64.52% |
อันดับ 2 | สร้างความร่วมมือพัฒนาการเรียนการสอน พัฒนานักศึกษา | 22.58% |
อันดับ 3 | ให้ความรู้และเต็มใจในการให้บริการ/พัฒนาการสื่อสารการบริการ | 9.67% |
อันดับ 4 | สร้างเครือข่ายในการทำงาน | 3.23% |
จากผลการจัดกิจกรรม พบว่า บุคลากรขาดการศึกษาข้อกฎหมาย ระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยในหลาย ๆ เรื่อง แต่บุคลากรบางส่วนมีการเรียนรู้ศึกษาข้อกฎหมายหรือระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับงานในหน้าที่ และส่วนที่เกี่ยวข้องกับตนเองบางเรื่องตามความสนใจและความจำเป็น ทั้งนี้อาจจะด้วยข้อจำกัดด้านภาษาเนื้อหา
ข้อจำกัดด้านการสื่อสาร ช่องทาง ภาษาที่เข้าใจยาก ความต่อเนื่อง และด้วยพฤติกรรมของวัยหรือส่วนบุคคล รวมไปถึงการไม่ชอบอ่านอะไรที่ไม่น่าสนใจ หากส่วนงานที่เกี่ยวข้องจะสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมาย กฎระเบียบที่สำคัญ ทำข้อมูลเนื้อหาที่สำคัญ ๆ ให้น่าสนใจ และเข้าใจง่าย สื่อสารอย่างต่อเนื่อง ในรูปแบบที่หลากหลายมากกว่าการสื่อสารผ่านระบบ e-office ให้อ่านเอกสารกฎหมายแต่เพียงอย่างเดียว อาจจะเป็นแนวทางส่งเสริมความรู้สร้างความเข้าใจให้กับบุคลากรทุกระดับได้
จัดทำโดยสวนดุสิตโพล